• อยู่ที่ไหนอยู่
• กำลังออกจากบ้านไปข้างนอก
• กำลังทำอะไรอยู่

ก็เหมือนจะเป็นเรื่องทั่วๆ ไปใช่ไหมครับ ใครๆ เขาก็ทำกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องความเป็นส่วนตัวของเราก็จะเริ่มลดน้อยลงไปทุกทีๆ แม้แต่ตำแหน่งการ tweet และบอกที่อยู่ของเราอย่างชัดเจนจาก location base service (จาก twitter client บางตัว รวมไปถึง foursquare)  แต่ว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวมาว่า “update facebook status ทำให้โดนปล้น” โดยโจรสามารถปล้นทรัพย์สินไปได้รวมทั้งสิ้น 10,000$ ภายในเวลาเพียง 13 นาที จากเทปภาพที่บันทึกไว้ โชคยังดีที่สามารถจับโจรรายนี้ได้แล้ว ผู้เสียหาย Keri McMullen ได้กล่าวว่าเธอได้ update status facebook ว่าออกไปดูคอนเสิร์ต และตัวโจรซึ่งเป็น friend กับเธออยู่ใน facebook และเป็นเพื่อนเก่าของเธอที่ไม่ได้เจอหน้ามา 20 ปี ได้ดักรอเวลาและเข้ามากวาดทรัพย์สินไปทันทีที่เธอออกไปข้างนอก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คิดว่าโจรคงจะดูตัวอย่างจากเว็บ http://pleaserobme.com/ ซึ่งเป็นเว็บเตือนภัยไม่ให้บอกข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปนั่นเอง

นอกจากนี้ข้อมูลส่วนตัวของเราที่อยู่บน facebook เช่นที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ซึ่งจากบทความครั้งก่อนๆ ของผมจะมีบอกวิธีการเซ็ตระดับ privacy(ความเป็นส่วนตัว) เอาไว้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากข้อมูลส่วนตัวของคุณหลุดไป?

• การบอกตำแหน่ง tweet ตัวเองให้คนอื่นรู้ทาง GPS location – อันนี้เกิดปัญหาเดียวกับข้างบนครับ คือโจรรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนแล้ว ยิ่งพิกัดชัดเจนมากเท่าไรโจรจะสามารถรู้ได้เลยนะว่าคุณจะต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่กว่าจะถึงบ้าน! มีเวลาให้ค้นของอีกนานแค่ไหน
• เบอร์โทรศัพท์มือถือหรือเบอร์บ้าน – อันนี้โดยปกติค่า privacy จะเซ็ตที่ friends เท่านั้นที่เห็น ก็เหมือนจะปลอดภัยใช่ไหมครับ แต่ทุกวันนี้คุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณได้เป็นเพื่อนกับคนแปลกหน้าอีกไม่รู้กี่ร้อย กี่พันคน ใครขอเป็น friend มาก็รับหมด แล้วจะปลอดภัยหรือครับ? หากใครเกิดแค้นคุณขึ้นมา(อาจมาจากดราม่าพันธุ์ทิพย์ที่คุณไปโพสต์ข้อความเอามันส์ไว้ และเขารู้ facebook ของคุณ) เขาสามารถปลอมตัวมาเป็น friend เพื่อมาเอาเบอร์คุณไปโพสต์ข้อความเสียๆ หายๆ เช่น “อยากเสียว โทรหา xxx-xxxx สิคะ” ก็ได้นะใครจะไปรู้ คำแนะนำของผมคือเซ็ตที่ Only Me ครับ ถ้าใครอยากได้เบอร์จริงๆ ปกติเรามักจะเป็นคนบอกเองอยู่แล้วด้วย chat, message หรืออะไรก็แล้วแต่
• อีเมล์ – ตรงนี้ไม่อันตรายมากนัก เพราะเอาไปทำอะไรไม่ได้มาก bot ก็ไม่สามารถมา scan หาอีเมล์ไป spam ได้ง่ายๆ เพราะต้องเป็น friend กับเราก่อน แต่ปัญหาอาจจะไปอยู่ที่ตอนคุณใช้งาน application ต่างๆ มากกว่าที่มักจะมีข้อความขออีเมล์ของคุณติดอยู่ข้างบน ตรงนี้แก้ง่ายมาก หากเราต้องการของรางวัลในเกมจากการให้อีเมล์กับ application นั้นๆ เราสามารถกด change (default จะเป็นเมล์จริงเรา) เลือกให้เป็น proxied mail ซึ่งจะได้เป็นชื่อ xxxx@proxymail.facebook.com แทน(แต่ละ app จะให้ชื่อเมล์ที่ไม่เหมือนกัน) ซึ่งทางเกมยังสามารถส่งอีเมล์หาเราได้อยู่โดยผ่าน facebook เป็นตัวกลาง คนที่รู้อีเมล์จริงของเราคือ facebook ไม่ใช่ application นั้นๆ และถ้าเจอ spam ขึ้นมา เราก็แค่ไปกด permission ส่ง email ของ app นั้นๆ ออกก็พอแล้ว

ส่วน hometown ประเทศนั้นไม่มีปัญหาเท่าไหร่ครับ และมักจะเป็นประโยชน์กับตัวเรามากกว่าด้วยเพราะ application จะนำข้อมูลประเทศไปใช้ในการออกบริการที่สอดคล้องกับเราจริงๆ ออกมาทำให้เราสามารถใช้บริการได้สะดวกขึ้น (รวมไปถึงเห็นโฆษณาที่อยู่ในประเทศเราเองด้วย)

สรุปก็จะทำอะไรก็ระวังๆ ไว้ด้วยนะครับ แต่แน่นอนหากมัวระวังมากเกินไป ชีวิตจะเต็มไปด้วยความกังวล อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองละครับ ขอโชคดีทุกคนครับ

• Everyone – ทุกคน
• Friends of Friends – เพื่อนของเพื่อน
• Only Friends – เฉพาะเพื่อนของเรา(ขั้นเดียว) เท่านั้น
• Customize – ระบุเจาะจง คลิกแล้วจะปรากฏรูปด้านล่าง

ส่วนนี้สามารถเลือกส่งเป็นคนๆ หรือเลือกซ่อนจากใครเป็นคนๆ (เช่นน้อง, แฟน, เพื่อนที่ระบุเป็นกลุ่มๆ) ได้เลย จะเห็นได้ว่าสะดวกมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ตอน publish ลง wall ยังมีปุ่มให้เลือกกลุ่มเช่นกันดังรูป

ความจริงแล้ว Privacy นี้เราสามารถกำหนดได้ละเอียดถึงขั้นเป็น fieldๆ ใน profile ของเรา หรือแทบจะทุก action เลยทีเดียว โดยกดที่ Setting-> Privacy Setting

ที่เด่นๆ มีดังนี้

• Birthday
• Photos and Videos of Me
• Photo Album
• Posts by Me – อันเดียวกับ Status update แต่อันนี้เป็นค่า default
• Allow friends to post on my Wall – อนุญาตให้เพื่อนโพสต์ลง wall ของเราตรงๆ
• Posts by Friends – การอนุญาตให้ใครเห็นข้อความที่เพื่อนพิมพ์หาเราบ้าง
• Comments on Posts – อนุญาตให้ใคร comment ได้บ้าง
• Mobile Phone
• Current Address
• Add me as a friend – ให้ใคร add friend มาได้บ้าง
• Send me a message  - ให้ใครส่ง message มาหาได้บ้าง
• Email ของเรา

ที่เหลือก็แล้วแต่เราจะไปตั้งเองละครับว่าจะให้ใครทำอะไรได้บ้าง จะเห็นได้ว่าเซ็ตค่าให้ค่อนข้างครอบคลุมทุก action กันเลยทีเดียว เวลาโพสต์ข้อความอะไรลง status update ก็จะได้ไม่ต้องระวังคำพูดมากนัก โพสต์ได้เต็มที่มากขึ้น เนื่องจากอนุญาตให้เฉพาะเพื่อนๆ กันเองเห็นอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น Social Network ก็ยังเป็น Social Network ครับ ยังไงการไปพบปะกับผู้คนที่เป็นเพื่อนของเราจริงๆ ยังไงก็ดีกว่าใครที่เราไม่รู้จักแน่นอน โชคดีครับทุกคน